เดนนิส เบิร์กแคมป์ อดีตกองหน้าของทีมชาติเนเธอร์แลนด์และตำนานของสโมสรอาร์เซนอล เขามีชื่อเต็มว่า แด็นนิส นีโกลาส มารียา แบร์คกัมป์ เขาเกิดในวันที่ 10 พฤษภาคม 1969 ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เขาเติบโตมาในย่านชานเมืองของชนชั้นแรงงาน ครอบครัวของเขามีฐานะปานกลาง พ่อของเขาเป็นช่างไฟและเป็นนักฟุตบอลสมัครเล่น เขาเป็นเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งที่มีความฝันว่าในอนาคตจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขามีแรงบันดาลใจคือ เกล็น ฮอดเดิ้ล ตำนานนักเตะทีมชาติอังกฤษ

ในปี 1981 เมื่อเขามีอายุได้ 11 ปี เขาได้รับการทาบทามจากสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ให้เข้ามาอยู่ในทีมเยาวชน และมันก็เป็นก้าวแรกของการทำตามความฝันการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของเขาอย่างแท้จริง และด้วยพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัวเขาก็ทำให้ เบิร์กแคมป์ สามารถฝึกฝนทักษะและพัฒนาฝีเท้าของตัวเองไปไกลกว่าเพื่อนในทีมเยาวชนด้วยกัน เขามีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก จนเป็นที่สนใจของทีมโค้ชของทีมชุดใหญ่ที่คอยเฝ้าดูเขาอยู่

ในฤดูกาล 1986-1987  เบิร์กแคมป์ในวัย 17 ปี ถูกผลักดันขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งในตอนนั้นมี โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นผู้จัดการทีม เขามีโอกาสในการลงสนามเป็นครั้งแรก ในเกมที่พบกับโรด้า เจซี และสามารถเอาชนะมาได้ด้วยสกอร์ 2-0 และหลังจากนั้นเพียงไม่นาน เขาก็สามารถทำประตูแรกให้กับทีมได้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 1987โดยในฤดูกาลแรกของการขึ้นมาในทีมชุดใหญ่ เขาได้รับโอกาสในการลงสนามทั้งสิ้น 23 นัด ซึ่งในฤดูกาลนั้น เขามีส่วนช่วยให้ทีมคว้าดับเบิลแชมป์ คือ ดัตซ์ คัพ และยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ

และในอีก 3 ฤดูกาลต่อมา เขาก็มีส่วนช่วยให้ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม คว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี เบิร์กแคมป์ ค้าแข้งอยู่กับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จนถึงปี 1993 โดยลงสนามไปทั้งหมด 185 นัด และทำไป 103 ประตู

ในฤดูกาล 1993-1994 เขาย้ายไปร่วมทีมกับอินเตอร์ มิลาน ทีมฟุตบอลชื่อดังในอิตาลี ด้วยค่าตัว 7.1 ล้านปอนด์ โดยการค้าแข้งในอิตาลีนั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการเป็นอย่างมาก แต่การย้ายทีมในครั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับเขามากนัก เบิร์กแคมป์ สร้างผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากเขาไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆได้ โดยเขาทำได้เพียงแค่ 8 ประตูในลีก และเขาก็สามารถทำได้ดีในยูฟ่า คัพ ด้วยการทำไป 8 ประตู และช่วยให้ อินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ และยังได้รับรางวัลดาวซัลโวมาครอง แต่อนาคตของเขาก็ยังไม่แน่นอนเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บจากการเล่นให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในศึกฟุตบอลโลก ทำให้ในฤดูกาล 1994-1995  เบิร์กแคมป์ ไม่สามารถเล่นให้กับต้นสังกัดได้อย่างเต็มที่เนื่องจากอาการบาดเจ็บดังกล่าว

และการเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรอินเตอร์ มิลาน ของ มัสซิโม่ โมรัตติ ในปี  1995 รวมถึงการเปลี่ยนผู้จัดการทีมคนใหม่  ทำให้เขาต้องพบกับความไม่แน่นอนในการที่จะอยู่กับอินเตอร์ มิลานต่อไป ทำให้ในฤดูกาลนั้นเขาลงสนามในเซเรีย อา ไป 21 นัด ทำได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น และหลังจากจบฤดูกาลนั้น อินเตอร์ มิลาน มีแผนที่จะคว้าตัวนักเตะชั้นนำเข้ามาร่วมทีม ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของอินเตอร์ มิลานอีกต่อไป และท้ายที่สุดแล้ว เบิร์กแคมป์ ก็ตัดสินใจย้ายทีมออกไป

ในฤดูกาล 1995-1996 เขาย้ายมาร่วมทีมกับอาร์เซนอล ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์ และในการย้ายทีมในครั้งนี้ เบิร์กแคมป์ ได้รับสไตล์การเล่นของตัวเองใหม่ เขามองข้ามการถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อในช่วงแรก และมุ่งมั่นในการเล่นตามแบบของเขา เขาพยายามและตั้งใจในการพิสูจน์ตัวเองเป็นอย่างมาก เขาลงสนามเป็นครั้งแรกในเกมที่พบกับมิดเดิลสโบรห์ แต่หลังจากนั้นอีก 7 เกม เขาถึงจะสามารถทำประตูแรกให้กับอาร์เซนอลได้ ซึ่งเป็นเกมที่พบกับ เซาแธมป์ตัน ในฤดูกาลแรกของเขากับอาร์เซนอล เขาลงสนามไปทั้งหมด 33 นัด ทำไป 11 ประตู โดยอาร์เซนอลจบอยู่ที่อันดับ 5 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

ในฤดูกาล 1996-1997 ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อ อาร์แซน เวนเกอร์ เข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ ทำให้ทุกอย่างเริ่มที่จะลงตัว เบิร์กแคมป์สามารถทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยจบฤดูกาลนี้เขาไม่ได้ทำประตูได้อย่างมากมาย แต่เขาก็สามารถทำแอสซิสต์ได้ถึง 13 แอสซิสต์ เบิร์กแคมป์ ในเวลานั้น ถูกจับตามองว่าเป็นนักเตะที่สามารถสร้างสรรค์เกมได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกในตอนนั้น

ฤดูกาล 1997-1998 ฟอร์มการเล่นของเขากลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง ด้วยการทำไปถึง 38 ประตู จากทุกรายการ และสามารถพาทีมคว้าดับเบิลแชมป์ได้สำเร็จ และในฤดูกาลนี้เขายังสามารถทำแฮตทริกแรกในเกมที่พบกับเลสเตอร์ ซิตี้ ได้อีกด้วย เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในฤดูกาลนั้น เบิร์กแคมป์ กลายเป็นนักเตะที่ขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าของยุโรป ถึงแม้ในช่วงนี้ อาร์เซนอล เสริมทัพด้วยนักเตะดัง เขาก็ยังคงเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมอยู่ เบิร์กแคมป์ยังสร้างความโดดเด่นในเกมรุกของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม

ฤดูกาล 1999-2000 เบิร์กแคมป์ ในวัย 30 ปี ยังคงเป็นกำลังสำคัญให้กับอาร์เซนอล และยังคอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี โดยเขาลงสนามไปทั้งหมด 29 นัด ทำไป 4 ประตูกับ 9 แอสซิสต์

ฤดูกาล 2003-2004 อาร์เซนอลสามารถสร้างประวัติศาสตร์โดยการเป็นทีมแรกในพรีเมียร์ลีกที่จบฤดูกาลด้วยสถิติไร้พ่าย โดยการชนะ 26 นัด เสมอ 12 นัด

ฤดูกาล 2005-2006 ด้วยอายุที่มากขึ้นของเขาทำให้ภาระกำลังของเขาลดน้อยลงไป โดยในฤดูกาลนี้เขาลงสนามไป 31 นัด และทำไปเพียงแค่ 3 ประตู

ในเดือนกรกฎาคม 2006 เบิร์กแคมป์ ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการด้วยวัย 36 ปี และเขาได้รับแต่งตั้งให้เข้าสู่หอเกียรติยศของฟุตบอลอังกฤษในปี 2007

ผลงานในทีมชาติเขาเริ่มเล่นให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ในปี 1989 ในรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และในปี 1990 เขาเข้ามาเล่นในทีมชุดใหญ่